การเติบโตที่ก้าวกระโดดของธุรกิจฟิตเนสยิมในไทย
ธุรกิจฟิตเนสยิมในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การเติบโตนั้นก็นำมาซึ่งการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นกัน ยิมจำนวนมากเริ่มใช้กลยุทธ์การตลาดที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้น เช่น ลด แลก แจก แถม เพื่อดึงดูดสมาชิก โดยหวังจะขายแพ็กเกจยิมราคาสูงกว่าในภายหลัง แม้ว่ากลยุทธ์นี้อาจดูน่าสนใจในตอนแรก แต่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำไรและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว เราทราบเพราะทีมของเราก็มีประสบการณ์คลุกคลีกับเจ้าของฟิตเนสยิมมาพอสมควร
น่าแปลกใจที่หลายยิมในไทยยังมองข้ามโอกาสทางการตลาดออนไลน์ที่สำคัญ นั่นคือการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นบนโลกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เราไม่ได้มาพูดถึงโซเชียลมีเดียในวันนี้ แต่เป็นกลยุทธ์การทำ SEO (การทำให้ติดอันดับบนหน้า Google) ที่เหมาะสมและเว็บไซต์ที่ออกแบบมาอย่างดีจนทำให้ Google เห็นว่าควรแนะนำในผลการค้นหาหน้าแรก หากคุณไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราบอกได้เลยว่ายิมของคุณกำลังพลาดโอกาสการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลที่ใช้ Search Engine อย่าง Google ในการค้นหาฟิตเนสยิมที่เหมาะกับพวกเขาในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งยังมีหลายยิมที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้และนำมาสู่รายงานที่ผมจะแบ่งปันในวันนี้ครับ
ยิมที่มีแต่ Social Media ไม่ชนะในศึก SEO
ผู้เขียนขอแทรกว่า: แม้หลายคนอาจคิดว่าการมีเพจ Facebook ก็เพียงพอแล้วเพราะมันก็ติดอันดับใน Google เหมือนกัน แต่จริงๆแล้ว ตัวเลือกในการปรับแต่ง SEO บน Facebook นั้นมีค่อนข้างจำกัด การที่เพจจะติดอันดับหน้าแรกหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำเว็บไซต์ของตัวเองจึงสำคัญมาก
เรามาหาบทสรุปจากข้อมูลโดยปราศจากการโต้แย้งกันดีกว่าว่า ธุรกิจฟิตเนสยิมในไทยกำลังล้นตลาดจริงหรือไม่? ยังมีโอกาสแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้หรือไม่? และ SEO ที่ใคร ๆ ก็พูดถึงนั้นจะมีประสิทธิภาพอย่างที่อ้างจริง ๆ หรือ? โดยเฉพาะเมื่อทุกคนทุ่มเทเวลาเกินกว่า 8 ชั่วโมงเล่นโซเชียลมีเดียทั้งวันแล้ว
ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง SEO สำหรับฟิตเนสยิมในด้านต่าง ๆ ได้แก่:
- ปริมาณการค้นหาเฉลี่ยรายเดือนในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2563-2566 (2020-2023)
- การเติบโตของการค้นหาบน Google ในช่วงที่ผ่านมา
- แปลงตัวเลขเหล่านี้ให้เป็นภาพชัดเจนว่า SEO จะดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจยิมของคุณได้อย่างไร
- จากข้อมูลสู่การปฏิบัติ : การออกแบบเว็บไซต์และ SEO
- การเติบโตบน Google: ข้อมูลกำลังบอกอะไรเรา
ข้อมูล SEO ของยิมและฟิตเนสในไทย
เราได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Google Keyword Planner เพื่อค้นหาคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับฟิตเนสยิมจำนวน 200 คำค้นหาหลักเพื่อหาปริมาณการค้นหาต่อเดือน (โดยในจำนวนนี้มีคำค้นหาที่ระบุพื้นที่ประมาณ 25%) สิ่งที่เราพบคือ ปริมาณการค้นหาสูงมากเพราะการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับฟิตเนสยิมเติบโตขึ้น 221.98% นับตั้งแต่ปี 2020 ชี้ให้เห็นถึงความสนใจที่เติบโตขึ้นของผู้บริโภคควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนของยิมในไทย โดยตัวเลขล่าสุดเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 593,090 ครั้งต่อเดือน
การเติบโตอย่างต่อเนื่อง: อัตราการเติบโตแบบ Year-on-Year ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 32.47% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น (-3.1%, 46.66%, 53.67%) แม้ว่าจะมีการชะลอตัวเล็กน้อยในปี 2020-2021 จากสถานการณ์โควิด แต่หลังจากฟื้นตัวก็มีเลขการค้นหาบน Google ในปัจจุบันที่สูงขึ้นมาเรื่อย ๆ ครับ (อาจมากกว่านี้หากมีคีย์เวิร์ดสำคัญที่เราพลาดไปในรายงานนี้)
ตัวเลข SEO สำหรับยิมเนิร์ด
สำหรับสายที่รักในการอ่านข้อมูลแบบดิบ ๆ ตัวเลขเน้น ๆ นี่คือ
ตัวเลขการค้นหาเฉลี่ยรายเดือนบน Google ในแต่ละปี
ปี | การค้นหาเฉลี่ยต่อเดือน (ครั้ง) |
---|---|
2020 | 184,202 |
2021 | 178,498 |
2022 | 261,788 |
2023 | 402,278 |
การเปลี่ยนแปลงแบบปีต่อปี (Year-on-Year Change)
ช่วงปี | การเติบโต (%) |
---|---|
2020-2021 | -3.10 |
2022-2021 | 46.66 |
2023-2022 | 53.67 |
อย่างที่เห็นการมีเว็บไซต์ฟิตเนสยิมที่ได้มาตรฐานควบคู่กับแคมเปญ SEO ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ยิมของคุณเข้าถึงกลุ่มผู้ค้นหาจำนวนมหาศาลเหล่านี้ที่พร้อมเป็นสมาชิก หากตัวเลขการเติบโตของ SEO ยังไม่เห็นภาพชัดเจน งั้นลองแปลงมันให้กลายเป็นลูกค้าที่จับต้องได้ดูไหมครับ?
มาทำตัวเลข SEO ให้เห็นภาพด้วยจำนวนลูกค้าใหม่
การหาข้อมูลมาตรฐาน SEO โดยตรงที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละธุรกิจนั้นค่อนข้างยากครับ เราจึงอ้างอิงจากรายงาน ‘2023 Google Ads Benchmarks’ ของ LocaliQ ที่ศึกษาผู้ใช้ Google Ads 17,000 คนในหลากหลายธุรกิจในสหรัฐฯ เพื่อนำมาเป็นเกณฑ์ประมาณการว่าข้อมูลการค้นหาที่เรามีสามารถแปลงเป็นลูกค้าได้จำนวนเท่าไร โดยจะเจาะจงข้อมูลของธุรกิจฟิตเนสโดยเฉพาะนะครับ
งั้นมาสมมติกันว่า:
ยิมของคุณสามารถติดอันดับซึ่งมีคนเห็น 1/10 จาคนเห็นการแสดงผลทั้งหมด 593,090 ครั้ง/เดือน นั่นคือมีคนเห็นยิมของคุณบน Google ถึง 59,309 ครั้ง (นี่แค่ 1 ใน 10 คนเองนะครับ ถ้าอันดับดีกว่านี้ ตัวเลขคงอลังการไม่น้อยเลย)
อัตราการคลิก (CTR) สำหรับเว็บไซต์ฟิตเนสโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.39% เท่ากับจะมีคนคลิกเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณถึง 3,790 ครั้งต่อเดือนและฟิตเนสยิมมีอัตราการแปลงผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้าโดยเฉลี่ย (Conversion Rate) ที่ 8.49% ตามรายงานข้างต้น
จากข้อมูลเหล่านี้ นั่นหมายถึงยิมออกกำลังกายของคุณมีโอกาสได้ลูกค้าใหม่อย่างน้อย 322 คนต่อเดือนจาก SEO บน Google อย่างเดียว (อาจมากกว่านี้เพราะ SEO มักมีอัตรา CTR และ CR สูงกว่า Google Ads) เจ้าของยิมหลายคนน่าจะเริ่มมองเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นในหัวไปแล้วสินะครับ แต่ขออธิบายเพิ่มนิดนึงว่ารายงานนี้ก็มีขีดจำกัดที่อาจทำให้ตัวเลขที่ออกมาไม่ตรงปะติดปะต่อ
ข้อจำกัดที่ควรคำนึง
แม้ตัวเลขจะแสดงถึงโอกาสน่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผลลัพธ์จริงที่ยิมแต่ละแห่งจะทำได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:
- อันดับใน SEO: ยิ่งอยู่อันดับสูง ติดหน้าแรกหลายคีย์เวิร์ด ก็ยิ่งมีโอกาสดึงลูกค้าได้มากขึ้น
- ทำเลที่ตั้ง: ลักษณะการค้นหาและการแข่งขันจะต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ พื้นที่ในเมืองใหญ่ย่อมมีคนค้นหาและแข่งขันสูงกว่าพื้นที่ห่างไกล
- รูปแบบยิมและบริการ: ประเภทของการออกกำลังกายและกลุ่มเป้าหมายที่ให้บริการ รวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยรวมจะส่งผลต่อความสามารถในการดึงดูดลูกค้า การชูจุดเด่นเฉพาะตัวจึงสำคัญครับ
- การสร้างแบรนด์: แบรนด์ที่แข็งแกร่งและโดดเด่นจะช่วยเพิ่มการปรากฏตัวบนผลการค้นหาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า โดยเฉพาะธุรกิจด้านสุขภาพอย่างฟิตเนสยิม ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจของลูกค้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง
- กลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสาน: SEO จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อประกอบเข้ากับกลยุทธ์การตลาดอื่นๆที่ดี รวมถึงการวางแผน Content Marketing ที่มีคุณค่าและตรงใจกลุ่มเป้าหมายด้วย
ขั้นตอนต่อไป: SEO สำหรับฟิตเนสยิมของคุณ
การทำ SEO ให้ได้ผลดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของใครเช่นกัน ต่อไปนี้คือแนวทางที่เราแนะนำซึ่งจะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตทางออนไลน์ในระยะยาว:
- เริ่มต้นด้วยเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อ SEO: เชื่อหรือไม่ว่า Search Engine ยุคใหม่อย่าง Google ให้ความสำคัญกับ User Experience บนเว็บไซต์มากกว่าที่คุณคิด ฉะนั้นอย่ามองข้าม UX/UI เด็ดขาด ทำให้มันง่าย สะดวก และน่าใช้
- ใส่ใจทุกรายละเอียดบนเว็บไซต์: ตั้งแต่ Meta Tags ไปจนถึงเนื้อหาทุกหน้า ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อการจัดอันดับ หมั่นอัพเดทข้อมูลให้ทันสมัยและตรงกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ (รู้ได้จาก Keyword Research ที่ทำอย่างต่อเนื่อง)
- เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย Off-Page SEO: ใช้ PR, Influencer Marketing, หรือสร้างพาร์ทเนอร์กับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้าง Backlink คุณภาพมายังเว็บไซต์ของคุณ เป็นการบอก Google ว่าเว็บคุณเป็นที่ยอมรับในวงการ
- มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าในพื้นที่: อย่ามองข้าม Local SEO เด็ดขาด เพิ่มคีย์เวิร์ดพื้นที่ให้มากขึ้น เช่น “ฟิตเนสยิมพระราม 9” “โปรโมชั่นยิมอ่อนนุช” รวมถึงสร้างบัญชีธุรกิจบน Google Maps ด้วย
- ติดตามผลลัพธ์และทดลองปรับกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ: ใช้ Google Analytics และ Search Console ติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มาจาก SEO ว่ามีปริมาณและคุณภาพตามเป้าหมายหรือไม่ ลองปรับหน้าเว็บ คอนเทนต์ หรือแท็กให้แตกต่างแล้ววัดผลซ้ำอีกครั้ง ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ต้องลองทำและวัดผลครับ
จากตัวเลขสู่อนาคต: ก้าวต่อไปของฟิตเนสยิมไทย
ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจแข่งขันกันอย่างดุเดือด ธุรกิจฟิตเนสยิมก็ไม่ต่างกัน เราจึงหวังว่ารายงานนี้จะช่วยให้ภาพตัวเลขเชิงลึกจากมุมมองของ SEO ซึ่งหลายคนกำลังพลาดโอกาสอันนี้อยู่
ด้วยปริมาณการค้นหาจากลูกค้าที่สูงขึ้นทุกปีประกอบกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสมาร์ทโฟนและแพลตตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้พฤติกรรมการค้นหาฟิตเนสยิมบน Google มีแนวโน้มจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากธุรกิจยิมฟิตเนสไทยสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์บวกการหมั่นสร้าง Branding ที่ชัดเจน ย่อมเป็นโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ไม่ใช่กุญแจดอกเดียวที่จะไขไปสู่ความสำเร็จ แต่ต้องประกอบเข้ากับกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ หากทำได้ครบถ้วนก็เชื่อว่าผู้ประกอบการฟิตเนสไทยจะสามารถเติบโตบนตลาดออนไลน์ที่หลายคนบ่นว่าเริ่มแน่นจนทำการตลาดได้ยากและสามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และนั่นจะกลายเป็นความได้เปรียบที่คู่แข่งคุณได้แต่ฝันถึงครับ
ท้ายที่สุดนี้ เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการฟิตเนสไทยทุกท่าน ให้คุณปรับตัวให้ทันโลกดิจิทัล เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าให้ลึกซึ้ง ไม่หยุดพัฒนาทั้งบริการและประสบการณ์ และที่สำคัญ อย่าลืมใช้ประโยชน์จากข้อมูลและ SEO เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความแตกต่างในโลกการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ แล้วความสำเร็จจะเป็นของคุณอย่างแน่นอนครับ!