กุมความได้เปรียบ SEO กับการรับมืออัพเดต Google Core – มีนาคม 2024

SEO
March 9, 2024
Written for you by
Saranya N., SEO Expert

สารบัญ

Google Core Update ยกเครื่องครั้งแรกของปี 2024

Google ประกาศผ่านบล็อกของตนเองว่า กำลังจะปล่อยอัพเดทแรกของปี 2024 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างมาก สำหรับวงการ SEO เลยค่ะ มันเป็นผลมาจากระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพการค้นหาบน Google ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าคุณภาพในการค้นหาไม่ค่อยตรงตามความต้องการสักเท่าไหร่ รวมถึงปัญหาเรื่องการจัดอันดับ SEO ที่เอนเอียงให้กับเว็บไซต์ขนาดใหญ่และเนื้อหาประเภท Forum หรือที่เราเรียกติดปากก็คือเว็บจำพวกที่เราสามารถตั้งกระทู้ได้ รวมไปถึงปัญหาด้านการสแปมลิงก์ต่าง ๆ จนเว็บที่คุณภาพไม่ค่อยดีดันติดหน้าแรกเฉยเลยในบางเว็บไซต์

ดังนั้นการอัพเดตครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะ Google ได้ประกาศนโยบายใหม่หลายอย่างที่จะมีผลต่อการปรับปรุงคุณภาพของผลการค้นหาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับปัญหาเนื้อหาขยะและสแปมต่าง ๆ รวมถึงการเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ (Helpful Content) ตอบโจทย์ผู้ค้นหามากยิ่งขึ้น มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรอัพเดตใหม่กันบ้าง

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Google

สิ่งสำคัญและผลกระทบที่เกิดขึ้นในการอัพเดท มีดังนี้ค่ะ

  1. การอัพเดทหลักของเดือนมีนาคม 2024 (March 2024 Core Update) Google เริ่มปล่อยการอัพเดท Algorithm หลักครั้งแรกของปี โดยเป็นการอัพเดทขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
  2. การรวมระบบ Helpful Content เข้ากับ Algorithm หลัก ในอดีต Helpful Content Update มีการประกาศแยกต่างหาก แต่ตั้งแต่นี้ไป ระบบตรวจสอบเนื้อหาที่มีประโยชน์จะถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดอันดับหลักโดยตรง
  3.  การอัพเดทเพื่อป้องกันปัญหาสแปมหลายรูปแบบ ได้แก่ Scaled Content Abuse, Expired Domain Abuse และ Site Reputation Abuse (หรือ Parasite SEO)
  4. เป้าหมายคือลดเนื้อหาไร้ประโยชน์ลง 40% ด้วยการอัพเดทครั้งนี้และความพยายามที่ผ่านมา Google คาดว่าจะสามารถลดเนื้อหาคุณภาพต่ำและเนื้อหาที่ไม่มีเอกลักษณ์ลงได้ถึง 40% จากผลการค้นหา

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องค่ะ

นโยบายหลักที่เพิ่มเข้ามาของ Google

สาระสำคัญของการอัพเดทครั้งนี้ มีการเพิ่มนโยบายสำหรับป้องกันปัญหาสแปมอีก 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่:

  1. Expired Domain Abuse  Google ต้องการให้แน่ใจว่าโดเมนหมดอายุจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อแสวงหาประโยชน์จากการจัดอันดับก่อนหน้านี้ แต่จะพิจารณาจากประโยชน์ที่เว็บไซต์นั้นมีให้กับผู้ใช้ในปัจจุบันเป็นหลัก โดยเว็บที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพจะได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น
  2. Scaled Content Abuse นโยบายนี้จะช่วยลดการปรากฏของเนื้อหาคุณภาพต่ำที่ผลิตแบบจำนวนมากในครั้งเดียวโดยการโปรแกรมมิ่ง (Bulk Content Creation) หรือการใช้ Generative AI ช่วยผลิตคอนเทนต์ล้วน ๆ โดย Google จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่สร้างเองโดยมนุษย์หรือผลิตเองและมีประโยชน์ต่อคนอ่าน ครอบคลุมตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
  3. Site Reputation Abuse การอัพเดทนี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เว็บไซต์ที่มีอยู่มานานก็ไม่รอดพ้นจากการตรวจสอบ หากเว็บไซต์ใดมีการปฏิบัติที่หลอกลวง ให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน หรือขาดความโปร่งใส รวมถึงการสร้างคอนเทนต์แบบผิดจริยธรรม (Parasite SEO) ก็จะถูกลดอันดับลงได้ หรือถูกปรับโทษได้ (Penalty)

และสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญอย่างมากคือ แนวทาง “Helpful Content” ซึ่งเว็บไซต์ต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งเน้นในการสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ และมีเนื้อหาลึกซึ้งมากกว่าแค่พยายามเล่นเกม SEO  ซึ่ง Google จะใช้ทั้งระบบอัลกอริทึ่มในการตรวจสอบและลงโทษเว็บไซต์ที่กระทำความผิดดังกล่าว โดยโทษจาก Parasite SEO ในข้อ 3 จะมีผลในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้เพื่อให้เจ้าของเว็บไซต์แก้ไขก่อน ส่วนสองข้อแรกจะเริ่มในสัปดาห์นี้เลย

คำแนะนำเพื่อเตรียมตัวสำหรับการอัพเดทครั้งนี้

  1. เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Google ให้คุณค่ากับความเป็นต้นฉบับ ความเชี่ยวชาญ และการตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ควรมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่นำเสนอมุมมองใหม่ๆ ข้อมูลเชิงลึก และสามารถแก้ปัญหาให้ผู้ค้นหาอย่างแท้จริง
  2. ค่อย ๆ สร้างชื่อเสียงบนเสิร์ช Engine จากการปฏิบัติอย่างบริสุทธิ์ใจและถูกจริยธรรม การอัพเดทครั้งนี้เน้นให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจดูเข้าข่ายหลอกลวง และสร้างชื่อเสียงด้วยวิธีที่ถูกต้อง
  3. ใช้โดเมนเก่าด้วยความระมัดระวัง หากจำเป็นต้องใช้โดเมนที่เคยมีเจ้าของ คุณต้องตรวจสอบประวัติของโดเมนนั้นให้ดี และพยายามปรับปรุง Reputation ของโดเมนนั้นให้ดีขึ้น หากเคยมีประวัติไม่ดีมาก่อน
  4. ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามแนวทาง Google อย่างเคร่งครัด ติดตามบล็อก Google Search Central อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่พลาดการอัพเดทนโยบายและแนวทางการปฏิบัติใหม่ ๆ
  5. ดูแลองค์ประกอบ Technical SEO อย่างจริงจัง เช่น ความเร็วในการโหลด, การรองรับมือถือ และการช่วยให้ Google สามารถค้นหาและเข้าถึงเว็บได้ง่าย เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้งานโดยตรง หากทำเว็บไซต์ของคุณโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่ม งานในส่วนนี้ก็จะน้อยลงไปมากค่ะ
  6. การสร้าง Internal Link และสร้าง Backlink กับเว็บอื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ การออกแบบลิงก์ภายในเว็บให้ดีและหาโอกาสแลกเปลี่ยนลิงก์กับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือในแวดวงเดียวกันจะช่วยส่งสัญญาณบวกให้กับทาง Google ได้ค่ะ พยายามหลีกเลี่ยงลิงก์ที่อาจเป็นสแปมในสายตาของ Google ถ้าหากคุณมีลิงก์ที่มีลักษณะเป็นสแปมอยู่แล้ว ให้รีบเอาออกได้ก็จะดีนะคะ หรืออาจต้องคอยมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิดเมื่อ Google ปล่อยอัพเดทออกมาแล้วนั่นเอง

ถึงเวลากลับไปเตรียมรับมือบนเว็บไซต์ของคุณ

การอัพเดทครั้งนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนกับเราว่า กุญแจสู่ความสำเร็จของการทำ SEO คือการสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีประโยชน์และเป็นไปเพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งานอย่างแท้จริงค่ะ หากเราให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เสมอ เราจะไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของ Algorithm มากนัก และเวลาเกิดการอัพเดทแบบนี้ เจ้าของธุรกิจหรือฝ่ายการตลาดก็จะนอนหลับสนิททั้งคืนเพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำมาตลอด เน้น Value สำหรับคนอ่านเสมอมา

แชร์คอนเทนต์ให้ทุกคนได้อ่าน

โพสต์อื่นที่น่าสนใจ